Home    Search    Gallery    How-To    Books    Links    Workshops    About    Contact

Ritz Camera

adorama

Amazon

I personally buy from Ritz, Adorama and Amazon. I can't vouch for any other ads.

 

The Seven Levels of Photographers

A Spiritual and Satirical Guide. I wrote this as a joke one morning and now the whole world thinks it's some sort of Ten Commandments. Lighten up folks!
© 2005 KenRockwell.com

Please help KenRockwell..com

Also in  English   French   Italian   German   Spanish
Dutch   Portuguese   Czech   Polish   Russian
Hungarian   Ukrainian   Turkish   Thai   Chinese

read the sevel levels of artists here and the seven levels of surfers here.

บทความโดย Ken Rockwell
แปลและเรียบเรียงโดย Y. Charles
และขอขอบคุณผู้ที่ช่วยเรียงเรียงมา ณ ที่นี่ด้วย

ศิลปิน : ระดับสูงสุด (ระดับ 7) (เทียบเท่าได้กับ "สวรรค์" ทางศาสนาคริสต์) กลับไปข้างบน

นี่คือระดับสูงสุด

ศิลปินนำเอาจินตนาการของเขาถ่ายทอดลงในรูปแบบที่จับต้องได้ที่ชื่อว่า ภาพถ่าย เขาถ่ายทอดจิตวิญญาณของสถานที่หรือบุคคล ทั้งที่มีอยู่จริงหรือสิ่งที่สร้างขึ้นตามจินตนาการลง ในในภาพถ่าย และผู้ชมก็ตอบสนองต่อสิ่งนี้

ศิลปินเป็นผู้ที่ควบคุมอุปกรณ์ของเขาได้ดั่งใจ เมื่อเขาสร้างสรรค์งานศิลปะ ศิลปินจะก้าวข้ามเหนือขอบจำกัดทั่วไปของความมีอยู่ อันเนื่องมาจากจิตวิญญาณของเขาได้ล่องลอยไปหาสิ่งที่เขากำลังบันทึก เขาอาจจะฝึกฝนและเรียนรู้กับเครื่องมือของเขา เมื่อเขาไม่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะ แต่เมื่อเขากำลังสร้างสรรค์งานศิลปะ กล้องถ่ายภาพเป็นเพียงส่วนต่อขยายจากจิตใจของเขา ไม่มีจิตใดๆ ที่ติดค้างอยู่กับปัญหาทางเทคนิคในขณะที่เขากำลังถ่ายภาพ

ถ้าเปรียบเทียบกับดนตรี นักดนตรีอาจจะฝึกซ้อมสเกลตัวโน้ตกับเครื่องดนตรีของเขา แต่เมื่อเขากำลังเล่นดนตรีจริงๆ เขาไม่เคยคิดถึงแม้แต่การวางนิ้ว เขาได้เข้าไปเป็นส่วนนึงของดนตรีในขณะนั้นแล้ว

เหมือนกับโปรนักโต้คลื่นผู้มีกระดานโต้คลื่นเป็นโหลๆ หรือโปรกีตาร์ที่มีกีตาร์ 23 ตัว ศิลปินอาจจะมีกล้องเป็นสิบๆ แต่ละตัวไว้สำหรับงานแต่ละแบบ

แต่ในขณะเดียวกัน ศิลปินบางคนก็อาจจะมีกล้องเพียงตัวเดียว หรือไม่มีเลยก็ได้ มันไม่สำคัญใดๆ

ศิลปินบางครั้งจะแต่งตัวแปลกๆ และนอนดึก พวกเขาชอบที่จะถ่ายภาพสาวๆ ที่น่าสนใจ และภูมิใจสำหรับสิ่งนั้น

ไม่เคยมีใครที่ได้เห็นงานของเขา เพราะว่าพวกเขามีทักษะยอดแย่ในการโปรโมตตัวเอง ที่แย่กว่านั้นคือ พวกเขาไม่ค่อยจะชื่นชมผลงานตัวเองเท่าไรนัก นอกจากพวกที่ร่วงไปอยู่ระดับ "เทวดาตกสวรรค์" ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะว่าคุณจะไม่เคยเห็นผลงานของศิลปินจริงๆ เลย นอกเสียจากคุณจะรู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัวเท่านั้น ศิลปินที่ดีมักจะรู้สึกเขินอายเกินกว่าจะแสดงผลงานให้ใครๆ ดู นอกเสียจากคุณจะคะยั้นคะยอเค้าเท่านั้น เนื่องจากงานของพวกเขาเหมือนจิตวิญญาณของพวกเขานั่นเอง

ศิลปินจะใช้กล้องอะไรก็ได้ รวมไปถึงกล้องรูเข็ม และกล้องใช้แล้วทิ้ง หรือเลยไปถึงกล้อง 8x10 พวกเขาใช้อุปกรณ์อะไรก็ได้ที่เขาต้องการ ตราบที่มันสามารถใช้สร้างภาพที่พวกเขาต้องการได้

เทวดาตกสวรรค์ : ระดับ 6 กลับไปข้างบน

เหล่าเทวดาตกสวรรค์คือศิลปินที่ขายวิญญาณของตนเองเพื่อแลกกับเงินหรือยา

เพราะว่าพวกเขายอมลดตัวเอง วิสัยทัศน์ของพวกเขาจึงถูกจำกัด

ทำไมหรือ? เพราะว่า เมื่อคนใดคนหนึ่ง จำเป็นต้องขายวิญญาณของตน เพราะแลกกับอาหาร ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ยอมใช้สไตล์ใหม่ๆอีก ถ้าเกิดงานของพวกเขาสามารถทำเงินได้ หลังจากทดลองมาหลายปี มันก็เป็นการยากที่พวกเขาจะเปิดรับสไตล์การถ่ายภาพใหม่ๆ ตราบใดที่พวกเขายังไม่อยากอดตาย

ศิลปินที่มีนายหน้าอาจจะเสียนายหน้านั้นๆ ถ้าพวกเขาเปลี่ยนสไตล์การถ่ายภาพ

เพราะฉะนั้น ศิลปะที่มีไว้ขายจากบางคนนั้นยากที่จะพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลง

สไตล์ที่ขายได้นั้นเป็นสิ่งที่นายหน้าและผู้ซื้อต้องการที่จะเห็น ลองอ่านหนังสือของ Barnbaum เกี่ยวกับศิลปะ มันเป็นเรื่องแปลกมากที่จะเห็นเหล่าเทวดาที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้เปลี่ยนวิถีการทำงาน เมื่องานของพวกเขาได้รับการยอมรับแล้ว

ต่อเรื่องเหล่าเทวดาตกสวรรค์ที่ระดับ 10 ที่นี่

มือสมัครเล่น: ระดับ 5 กลับไปข้างบน

เหล่าคนที่ได้เงินจากภาพถ่ายของพวกเขาน้อยกว่าครึ่งของรายได้ทั้งหมดคือมือสมัครเล่น แต่สิ่งนี้ไม่ได้บ่งบอกอะไรเลยเกี่ยวกับคุณภาพของภาพถ่าย

คนกลุ่มนี้ชอบที่จะถ่ายภาพ มือสมัครเล่นฝีมือดีสามารถที่จะก้าวไปสู่การเป็นศิลปินได้โดยตรง

คนที่ถ่ายภาพงานแต่งงานหรืออื่นๆ ตามวันหยุดสุดสัปดาห์ ยังนับเป็นมือสมัครเล่นอยู่ พวกเขาแค่คิดเงินสำหรับภาพถ่ายเท่านั้น และจากที่นี่ คุณสามารถเห็นได้ว่า บางครั้งพวกเขาคิดเงินเยอะซะด้วย

เหล่ามือสมัครเล่นที่คิดว่ากล้องที่ดีกว่าจะช่วยให้ภาพถ่ายดีขึ้น อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะลดตัวไปอยู่ในระดับต่ำสุดของพวกช่างวัด ช่างภาพสมัครเล่นหลายคนถูกปั่นหัวโดยเหล่าผู้ผลิตกล้อง ทำให้คิดว่าพวกเขาต้องการกล้องดีๆ เพื่อภาพสวยๆ ซึ่งความคิดนี้เป็นอุปสรรค์ต่อการสร้างสรรค์ศิลปะ

เหล่ามือสมัครเล่นที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับการสร้างสรรค์ศิลปะขั้นสูง กำลังก้าวไปสู่ทางแห่งแสงสว่าง

การเป็นมือสมัครเล่นเป็นสิ่งที่ดี จากระดับนี้จะสามารถก้าวไปสู่ระดับศิลปินได้ง่าย

มือสมัครเล่นส่วนมากมักจะถ่ายภาพด้วยกล้อง Canon SLR

มือใหม่ : ระดับ 4 กลับไปข้างบน

นี่คือสิ่งที่แม่ผม และคนอื่นส่วนมากเป็น คนเหล่านนี้ต้องการความทรงจำ ไม่ใช่ภาพถ่ายหรือกล้องถ่ายภาพ

มือใหม่เป็นศิลปินทางภาพถ่ายที่สามารถถ่ายภาพที่สร้างความประทับใจให้ผู้อื่นรอบข้าง มือใหม่เหล่านี้เป็นศิลปิน แต่ไม่เคยรู้ตัวเองเลย พวกเขามักจะแต่งตัวดีกว่าศิลปินที่คิดว่าตัวเองเป็นศิลปิน

เชื่อไหมล่ะ พวกเขาเป็นคนที่สร้างสรรค์ภาพถ่าย ไม่ใช่กล้องถ่ายภาพ

ช่างภาพอาชีพ : ระดับ 3 กลับไปข้างบน

กลุ่มช่างภาพอาชีพเป็นผู้ที่หาเลี้ยงชีพจากการขายภาพถ่าย

ช่างภาพอาชีพไม่ได้สร้างสรรค์ศิลปะเพื่อหาเลี้ยงชีพ พวกเขาสร้างภาพถ่ายเพื่อการค้า พวกเขามักจะมีความคุ้นเคยบ้างกับอุปกรณ์ และสามารถสร้างสรรค์งานดีๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้บันทึกจินตนาการของพวกเขาลงไป

แน่นอนว่าช่างภาพอาชีพสามารถสร้างภาพยอดเยี่ยมได้ แต่ว่านั่นเป็นในเวลาส่วนตัวของพวกเขา

ช่างภาพอาชีพใช้เวลาน้อยมากที่จะกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์ถ่ายภาพ ยกเว้นเสียเมื่อพวกมันเจ๊งเท่านั้น ส่วนใหญ่พวกเขาจะมองหางาน และบ่นเรื่องช่างภาพคนอื่นลดราคาค่าตัวเสียมากกว่า

ช่างภาพอาชีพจ่ายเงินค่าฟิล์มและค่าล้างในแต่ละเดือนมากกว่าที่จ่ายไปกับอุปกรณ์ในแต่ละปี

ไม่มีช่างภาพธรรมชาติอาชีพในโลกนี้ พวกเขามักมีงานอื่นๆ หรือไม่ก็ได้ภรรยาสนับสนุน

เหล่าช่างภาพอาชีพมักจะใช้กล้อง Nikon SLR, Mamiya หรือว่า Calumet 4x5" พวกเขาไม่สามารถซื้ออุปกรณ์ได้ดีเท่ามือสมัครเล่นที่จริงจังบางคน

จนกว่าคุณจะเป็นคนซื้อภาพถ่ายโฆษณา หรือรู้จักคนหนึ่ง คุณจะไม่รู้จักช่างภาพอาชีพจริงๆ คนที่คุณเห็นในโฆษณากล้องถ่ายภาพ อ้างตนเป็นช่างภาพอาชีพ มักจะเป็นเพียงหน้าม้าเท่านั้น

ช่างภาพอาชีพไม่มีเว็บไซต์ และไม่เคยส่งจดหมายทางเทคนิคออกไป คนพวกนี้มันจะเป็นมือสมัครเล่นมากกว่า

มือสมัครเล่นผู้ร่ำรวย : ระดับ 2 กลับไปข้างบน

กลุ่มคนนี้คือมือสมัครเล่นผู้ซื้ออุปกรณ์มากเกินความจำเป็นเนื่องจากพวกเขามีเงินมาก แต่มันกลับกลายเป็นโซ่ตรวนแก่จินตนาการของตนเอง คนเหล่านี้มักจะเป็นผู้ชาย ส่วนมากมักจะสูงอายุ และเกษียณแล้ว

กลุ่มคนรวยเหล่านี้มักจะใช้ Leica, Contax, Alpa, Hasselblad, Linhof 4x5 กล้องเหล่านี้เป็นกล้องที่ดีเยี่ยม แต่ว่าภาพถ่ายที่ได้กลับออกมาเหมือนกับใช้กล้อง Zenit, Pentax, Bronica และ Tachihara ถ่ายเอา

ส่วนคนที่จนกว่าคนอื่นหน่อยก็ใช้กล้อง Nikon หรือ Canon SLR

ช่วงหลังๆ พวกนี้หันมาจับกล้องดิจิตอล SLR สำหรับงานหนังสือพิมพ์ อย่างเช่น Canon EOS-1D หรือ Nikon D1X ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว ให้ผลลัพธ์ที่แย่กว่าฟิล์มที่ใช้โดยมือใหม่ คนที่โง่มากๆ จะรอให้กล้องอย่าง Contax N digital ราคา 7000$ ออกมา ซึ่งเป็นกล้องที่ไร้ประโยชน์เสียยิ่งกว่า Nikon หรือ Canon DSLR และยังให้ผลในทางเทคนิคอย่กว่ากล้องฟิล์ม SLR ราคาถูกอีกด้วย (คิดว่าคงเป็นเรื่องของความยากในการใช้งาน : ผู้แปล)

ช่างภาพผู้มีอันจะกินบางส่วนชอบคิดว่าภาพขาวดำเบลอๆ ของคนจนนั้นเป็นศิลปะ

ช่างภาพผู้ร่ำรวยส่วนหนึ่งมักจะตกไประดับล่างสุดง่ายๆ เพราะว่าพวกเขาเป็นห่วงเกี่ยวกับอุปกรณ์ถ่ายภาพมากเกินไป บางส่วนพุ่งไปยังระดับศิลปินโดยตรง เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอุปกรณ์อีกแล้ว เพราะว่าพวกเขามีสิ่งที่พวกเขาคิดว่าดีที่สุดแล้ว เป็นเรื่องน่าแปลกที่ช่างภาพเหล่านี้ไม่ค่อยสร้างภาพธรรมดา ภาพส่วนใหญ่มักจะยอดเยี่ยม หรือยอดแย่ไปเลย

เหล่าช่างวัด : ระดับ 1 ล่างสุด (เทียบเท่าได้กับ "นรก" ในทางศาสนาคริสต์) กลับไปข้างบน

กลุ่มคนเหล่านี้ (และพวกเขาเป็นผู้ชายทั้งหมด) ไม่มีความสนใจในศิลปะหรือการถ่ายภาพเลย เพราะว่าพวกเขาไม่มีจิตวิญญาณ การที่ขาดวิญญาณ ทำให้พวกเขาไม่สามารถแสดงออกซึ่งจินตนาการหรือความรู้สึก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมภาพถ่ายของพวกเขา (ถ้าพวกเขาเคยถ่ายภาพ) เฮงซวย

กลุ่มคนเหล่านี้เหมือนโดนหยุดกลางทาง แล้วก็เลยไม่เคยทำอะไรสำเร็จจริงๆ เสียที

การนั่งส่องภาพทดสอบเลนส์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ มันมีส่วนอะไรกับการออกไปถ่ายภาพต้น Joshua ตอนรุ่งสางหรือเปล่า? เปล่าเลย แย่ไปกว่านั้น เวลาที่เสียไปกับการนั่งทำการทดสอบมันคือเวลาที่เสียประโยชน์ในการไม่ยอมเรียนรู้แง่มุมต่างๆ ของการถ่ายภาพ และแน่นอนมันเป็นเวลาที่ควรจะออกไปถ่ายภาพมากกว่า ทดสอบให้เพียงรู้ว่าอุปกรณ์ของคุณทำอะไรได้บ้าง แล้วก็ออกไปถ่ายภาพข้างนอก

พวกเขาสนแต่เพียงอุปกรณ์เท่านั้น พวกเขาสามารถพูดให้ฟังชนิดหูดับตับไหม้ถ้าคุณยอมคุยกับเขา แต่เมื่อไรที่คุณถามถึงผลงานภาพถ่าย พวกเขาจะเกิดอาการหลอนในบัดดล หรือถ้าพวกเขาอยากรู้ว่าทำไมกล้องของพวกเขาไม่ได้ช่วยในการถ่ายภาพเลย พวกเขาสามารถอ่านได้ที่นี่

คนส่วนใหญ่มักจะมาจากสาขาอาชีพทางเทคนิค เช่นวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ และวิทยาศาสตร์ คนพวกนี้กังวลมากเกินไปกับการพยายามใส่ตัวเลขให้กับทุกอย่าง ทำให้พวกเขาลืมความจริงที่ว่ากล้องถ่ายภาพหรือชาร์ททดสอบนั้นไม่ได้เกี่ยวเนื่องใดๆ กับวิญญาณของภาพถ่ายเลย เพราะว่าพวกเขาเป็นห่วงเรื่องการวัดประสิทธิภาพกล้องมากเกินไป ทำให้พวกเราตั้งชื่อพวกเขาว่า "พวกช่างวัด" แต่น่าเสียดาย ที่กลุ่มคนพวกนี้เข้ามาใน KenRockwell.com เพียงเพื่อดูผลการทดสอบเท่านั้น

กลุ่มคนเหล่านี้ยังเล่นเครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ หรือรถยนต์ พวกเขาสนุกกับสิ่งพวกนี้เพียงเปลือกนอก แต่แทบไม่เคยใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อจุดประสงค์ของพวกมันจริงๆ เลย

คนที่อายุน้อยลงมาหน่อยจะนั่งเล่นเกมวิดีโอ หรือไม่ก็คุยในห้องแชทและเล่นเน็ต คนที่อายุมากหน่อยจะเข้าชมรม"กล้องถ่ายภาพ" (คุณควรจะเข้าร่วมชมรม "ถ่ายภาพ" ไม่ใช่ชมรม "กล้องถ่ายภาพ" หรืออะไรก็แล้วแต่ที่พยายามจะให้คะแนนศิลปะ เพราะว่าศิลปะเป็นเรื่องของมุมมองส่วนบุคคล และไม่สามารถให้คะแนนเป็นตัวเลขได้) เช่นเดียวกัน คนพวกนี้ไม่เคยสร้างอะไรเป็นตัวเป็นตนจากอุปกรณ์พวกนี้ แต่พวกเขาเพียงแค่ตื่นเต้นที่จะครอบครอง ซื้อ หรือคุยเกี่ยวกับมันเท่านั้น

อุปกรณ์อย่างเดียวที่คนพวกนี้ไม่สนใจ แต่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก คืออุปกรณ์กำเนิดแสง และปรับปรุงแสง (เช่น แฟลช หรือ Softbox)

คนที่มีผลงานภาพถ่ายดีๆ ไม่ใช่พวกช่างวัด คนที่มีอุปกรณ์มากกว่าภาพดีๆ อาจจะเข้าข่าย คนที่สร้างเว็บไซต์เพื่อพูดถึงเรื่องอุปกรณ์เหล่านี้โดยเฉพาะ แต่ไม่เคยพูดถึงการถ่ายภาพเลย อาจจะอยู่ในกลุ่มนี้

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม อย่าคุย หรืออ่านบทความ หรือถามเรื่องการถ่ายภาพกับพวกเขา สำหรับคนที่ไม่รู้ พวกเขาอาจจะเหมือนเป็นผู้ทรงความรู้ แต่จริงๆ แล้ว วิญญาณอันเจ็บป่วยของพวกเขาจะลากคุณเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนรก และทำให้ทั้งชีวิตของคุณคอยแต่เป็นห่วงว่าเลนส์ของคุณนั้นคมแค่ไหน ถ้าคุณเริ่มเป็นห่วงเรื่องนี้ คุณจะไม่เคยถ่ายภาพอะไรอีกเลย นอกจากกำแพงอิฐและชาร์ททดสอบ

กลุ่มคนพวกนี้ง่ายมากที่จะระบุ ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะเคยเห็นเว็บของพวกเขาแล้ว พวกเขายังมีข้อมูลอุปกรณ์เป็นร้อยๆ แต่ไม่ค่อยจะมีภาพถ่ายเท่าไร จงระวังข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายภาพให้จงหนัก

คนอื่นๆ อาจจะมีคำอื่นๆ สำหรับคนเหล่านี้ บทความนี้ให้มุมมองอีกมุมหนึ่ง

ผมเอาภาพอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากเว็บนี้ เพราะว่าคนเหล่านี้เอาแต่นั่งดูอุปกรณ์ของผมมากกว่างานศิลปะของผม แบนด์วิทธิ์ที่ผมต้องจ่ายเงินกลับต้องมาถูกเขมือบกับพวกบ้าที่คอยดูแต่เลนส์ของผม มากกว่าภาพของผมในแกลอรี่ซึ่งเป็นจุดสำคัญของเว็บนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหน้าเว็บเหล่านั้นเป็นสีเหลีองซึ่งสร้างความแสบตาให้กับคนที่มัวแต่ดูเรื่องอุปกรณ์นานๆ

คนส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มักจะอีเมล์มาหาผมแต่เรื่องทางเทคนิคหรืออุปกรณ์ คนส่วนมากที่นั่งห่วงเรื่องระดับของตนเองนั้นจัดอยู่ในระดับล่างสุด พวกคนเหล่านี้มักจะเดินร่องรอยไปในอินเตอร์เน็ต แจกจ่ายความรู้ทางเทคนิคให้กับเว็บและแชทรูมอย่าง Photo.net www.dpreview.com และ photocritique.net มากกว่าที่จะออกไปถ่ายภาพ คนเหล่านี้ไม่เลวเลย และกลุ่ม Leica ที่นี่ก็เป็นเพียงแค่นักสะสมกล้องเท่านั้น

Home    Gallery    How-To    Books    Links    Workshops    About    Contact